สาส์นจากประธานกรรมการ
สาส์นจากประธานกรรมการบริษัท
เป็นบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งสาลีรายเดียวในประเทศไทย ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) อยู่ในภาคธุรกิจเกษตร และอุตสาหกรรมอาหาร (AGRO) ซึ่งกระบวนการผลิตของเราอยู่ภายใต้ระบบคุณภาพสุขอนามัย และความปลอดภัยของอาหาร อาทิเช่น GHP, HACCP, FSSC22000, ISO22000 และ HALAL เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลีที่มีคุณภาพสูงสุด และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุดต่อบุคลากร และระบบการบริหารงานภายในองค์กรควบคู่กันไป อีกทั้งดำเนินโครงการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาองค์กร
ในส่วนของความรับผิดชอบและการดูแลสังคม เราไม่เพียงให้ความสำคัญกับการบริหารธุรกิจ เรายังตระหนัก และให้ความสำคัญในการตอบแทนสังคม โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดทั้งปี บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมเทกระจาด โดยมีการบริจาคสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนแก่ชุมชนโดยรอบ
บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการรักษาสถานภาพทางการเงินและความแข็งแกร่งมั่นคงทางธุรกิจ รวมถึงการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ได้มาตรฐานส่งถึงมือผู้บริโภค ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังคงแพร่กระจาย ซึ่งทีมผู้บริหารสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว บริษัทฯ จะรักษาความเป็นผู้นำทางการตลาด จึงขอให้ท่านโปรดให้ความไว้วางใจและสนับสนุนการดำเนินการของผู้บริหาร อันเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นตลอดไป
นายปรีชา อรรถวิภัชน์
(ประธานกรรมการบริษัท)
สาส์นจากประธานกรรมการบริหาร
ในปี 2565 บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ทำยอดรายได้ New High 1,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 482 ล้านบาท จากปี 2564 ที่มียอดขาย 1,483 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.50 และมีกำไรสุทธิรวม 109.4 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปีอยู่ที่ 21 สตางค์ต่อหุ้น มีกำลังการผลิตมวลรวม 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน และใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีราว 70%
ในปี 2565 ถือว่ายังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับบริษัท ฯ เพราะยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่สิ่งที่ทำให้บริษัท ฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คือ ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คณะกรรมการบริหาร รวมถึงผู้บริหารระดับสูงได้มีการวางแผนงาน ปรับนโยบาย และกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ทางบริษัท ฯ กำหนดไว้ได้
สุดท้ายนี้ ในนามของคณะกรรมการบริหาร ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น คู่ค้า ลูกค้า รวมทั้งผู้บริหาร และพนักงานทุกท่านที่ได้สนับสนุน และมอบความไว้วางใจบริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) เราขอสัญญาว่าการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท ฯ เป็นพันธกิจหลักของเราที่จะต้องทำให้ได้อย่างต่อเนื่องด้วยความรอบคอบ ซื่อสัตย์ โปร่งใส ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีของบริษัทมหาชน เพื่อพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าด้วยความมุ่งมั่น และประสบการณ์ของเรา ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดยั้ง
นายประภาส ชุติมาวรพันธ์
(ประธานกรรมการบริหาร)
สาสน์จากประธานกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) “บริษัท” ปัจจุบันประกอบด้วยกรรมการอิสระที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด และแนวทางปฏิบัติที่ดีของคณะกรรมการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท จำนวน 3 ท่าน ได้แก่
- นายสมชัย วนาวิทย ประธานกรรมการตรวจสอบ
- นายเอนก คำชุ่ม กรรมการตรวจสอบ
- นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการตรวจสอบ
โดยประธานกรรมการตรวจสอบ ได้แก่ นายสมชัย วนาวิทย เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ทางด้านทารเงิน การบัญชี มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกำตลาดทุน ในปี 2565 คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบครอบ และแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กร และสอดคล้องตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรกรรมการตรวจสอบ รวมถึงส่งเสริม และผลักดันให้บริษัท ฯ
ในปี 2562 คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยมีนโยบายเน้นการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจได้ส่งเสริม และผลักดันให้บริษัท ฯ ปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติที่ดีของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้บริษัท ฯ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท มีการประชุมรวม 4 ครั้ง โดยมีการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ผู้สอบบัญชี และผู้ตรวจสอบภายใน ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาสอบทาน และดำเนินการในเรื่องสำคัญ ซึ่งสรุปสาระสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ได้ ดังนี้
สอบทานงบการเงินรายไตรมาส และงบการเงินประจำปีของบริษัท ฯ รวมทั้งได้เชิญผู้สอบบัญชีเข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่มีการพิจารณางบการเงินรายไตรมาส และงบการเงินประจำปี คณะกรรมการตรวจสอบได้สอบทานงบการเงิน โดยสอบถามผู้สอบบัญชีในเรื่องความถูกต้อง ครบถ้วน เชื่อถือได้ของงบการเงิน และความเพียงพอในการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินที่มีผลกระทบต่องบการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดทำงบการเงินเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย และมาตรฐานการรายงานทางการเงิน และหลักการบัญชีที่รองรับทั่วไป ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นสอดคล้องกับผู้สอบบัญชีว่างบการเงินดังกล่าวมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน
การควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายใน คณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาสอบทานให้บริษัท ฯ มีระบบควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายในที่มีความเหมาะสม และมีประสิทธิผลมิให้เกิดความขัดแย้ง หรือละเมิดต่อระเบียบกฎหมายของบริษัท ฯ และข้อกำหนดต่าง ๆ พร้อมให้ข้อแนะนำแก่ฝ่ายบริหาร เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความรัดกุมรอบคอบ และถูกต้อง ตลอดจนให้มีการติดตาม และปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของรายงานผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบภายใน และภายนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่า การควบคุมภายในของบริษัท ฯ มีความเหมาะสมเพียงพอ โดยไม่พบข้อบกพร่องที่เป็นสาระสำคัญในปี 2565 คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาคัดเลือก นางสาวฤทัยชนก สุภาพงษ์ หรือ นางสาวสุกัญญา เรืองศรี จากบริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด เป็นผู้ตรวจสอบภายในของบริษัท ฯ ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีหน้าที่ตรวจสอบภายใน รวมถึงให้ข้อเสนอแนะแก่บริษัท ฯ เพื่อนำไปแก้ไขให้ดำเนินกิจการเป็นไปด้วยความโปร่งใสสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การกฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ฯ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่าบริษัท ฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว โดยไม่พบข้อบกพร่องที่เป็นสาระสำคัญ
การพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าตอบแทน คณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าตอบแทน โดยพิจารณาถึงคุณภาพงาน สถานะของผู้สอบบัญชี ข้อจำกัดที่มีสาระสำคัญ หรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ ฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ข้อบังคับของบริษัท ฯ และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาเสนอแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2565 จากบริษัทสำนักงาน เอ เอ็ม ซี จำกัด โดยมี นายอำพล จำนงวัฒน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4663 หรือ นายนริศ เสาวลักษณ์สกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 5369 คนใดคนหนึ่งเป็นผู้สอบบัญชีประจำปี 2565 เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี และแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท ฯ โดยพิจารณาจากเกณฑ์ คุณวุฒิ คุณภาพของผู้สอบบัญชี ประสิทธิภาพในการทำงาน และเป็นผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. พร้อมทั้งพิจารณากำหนดค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชีสำหรับปี 2565 อย่างเหมาะสม
การบริหารจัดการความเสี่ยง คณะกรรมการบริษัท และผู้บริหารได้ให้ความสำคัญ และระมัดระวังต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัท ฯ ตลาดจนให้คำแนะนำ และข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบริษัท ฯ ทั้งนี้ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานบริหารความเสี่ยงในระดับฝ่ายจัดการ เพื่อติดตามดูแลความเสี่ยง และระบบควบคุมภายในทั่วทั้งองค์กรให้มีประสิทธิภาพ โดยจัดให้มีการประชุมทีมงานไตรมาสละ 1 ครั้ง เพื่อร่วมประเมินความเสี่ยง จัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยง ควบคุม ติดตาม และประเมินผล
รายการเกี่ยวโยง หรือรายการที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายการเกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจจะมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัท ฯ เพื่อพิจารณาว่าการทำรายการมีความสมเหตุสมผล รวมถึงเปิดเผยข้อมูลของรายการดังกล่าว ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกไตรมาสอย่างสม่ำเสมอ
ความรับผิดชอบต่อสังคม คณะกรรมการบริษัท และผู้บริหาร ตระหนักและให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) เพื่อดำเนินการในการพิจารณา และนำเสนอนโยบาย แผนงานและกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนจัดให้มีการสื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจกับพนักงานในทุกระดับอย่างทั่วถึง และรับผิดชอบในการดูแลติดตามแผนงานการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และให้มีการพิจารณาทบทวนประเมินประสิทธิผลในการดำเนินงานให้คณะกรรมการบริษัทได้ทราบ และพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้อง