ชื่อบริษัท | บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) | |
ชื่อย่อ | TMILL | |
เลขทะเบียนบริษัท | 0107553000131 | |
ประเภทธุรกิจ | ประกอบการค้านำเข้า ข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี และธัญพืชอื่นๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องหรือผลพลอยได้จากอุตสาหกรรม | |
ทุนจดทะเบียน | ทุนจดทะเบียน 399,000,000 บาท ทุนชำระแล้ว 398,664,061 บาท |
|
บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตแป้งสาลีรายใหญ่ของประเทศไทย โดยเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2550 บริษัทได้ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของสินค้า เริ่มตั้งแต่การเลือกสรรพันธุ์ข้าวที่มีมาตรฐานสูง ปริมาณโปรตีน และกลูเต้นที่เหมาะสม ทำการแปรรูปให้ได้แป้งสาลีที่มีคุณภาพ สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มที่ใช้ในการผลิต ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และอาหารหลากหลายชนิด
บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ได้เลือกสรรอุปกรณ์เครื่องจักรอันล้ำสมัย โดยใช้ระบบ แปรรูปแป้งสาลีอัตโนมัติแบบ CIM (Computer Integrated Manufacturing) ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการควบคุมคุณภาพของแป้งสาลีสูตรต่างๆได้อย่างแม่นยำ สะอาด และถูกสุขลักษณะ ภายใต้ระบบการวิเคราะห์ และควบคุมจุดวิกฤตอันตรายในกระบวนการผลิต อันส่งผลกระทบต่อคุณภาพทางเคมี ชีวภาพ และกายภาพของแป้งสาลี (Hazardous Analysis Critical Control Points: HACCP) อีกทั้งยังคำนึงถึงความปลอดภัยด้านอาหารเป็นสำคัญ
บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ยังได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตทั้งด้านระบบคุณภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น ISO 22000, GMP, HACCP และ HALAL เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลีที่มีคุณภาพสูงสุดและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุด
บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ยังมีทีมค้นคว้าและวิจัยผลิตภัณฑ์ ซึ่งคอยให้บริการผลิตแป้งสาลีตามสูตรเฉพาะ (Tailor – Made Flour) และคิดค้นแป้งสาลีประเภทใหม่ๆ สูตรพิเศษ (Novel Products) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอีกด้วย
ปี | พัฒนาการที่สำคัญของบริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) |
---|---|
2520 | ก่อตั้ง "บริษัท ไทยชูการ์คลังสินค้า จำกัด" (ชื่อเดิมของบริษัทฯ) โดยการรวมตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานน้ำตาล ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มีจำนวนหุ้น 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจคลังสินค้าโดยมีทรัพย์สินเป็นอาคารคลังสินค้าแบบเทกองพื้นที่ใช้สอย 2,880 ตารางเมตรเพื่อให้บริการรับฝากสินค้า ซึ่งสามารถบรรจุสินค้าได้ 30,000 ตัน |
2534 | บริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยมี TSTE เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 61.30 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มบริษัทของ TSTE |
2544 | บริษัทฯ จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ไทยชูการ์อินเตอร์เทรด จำกัด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2544 โดยขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการคลังสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของบริษัทฯ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการจัดทำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับการรับฝากสินค้า เนื่องจากมีบริษัทย่อยอื่นที่ประกอบกิจการคลังสินค้าเช่นเดียวกัน และดำเนินธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าเทกองแทนการรับฝากสินค้า |
2548 | บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 2 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตแป้งสาลี มีกำลังการผลิตรวม 250 ตันต่อวัน |
2550 | - จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550. - วันที่ 5 กันยายน 2550 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 400 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 4 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจแป้งสาลี |
2551 | - บริษัทฯได้รับใบรับรอง GMP และ HACCP จากบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ("SGS") เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2551 - บริษัทฯได้รับใบรับรองมาตรฐานระบบ ISO 22000:2005 จาก SGS เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 |
2552 | - บริษัทฯได้รับการรับรองให้ใช้เครื่องหมายรับรองฮาลาล (HALAL) จากสำนักงานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2552 - ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 มีมติอนุมัติลดทุนจดทะเบียนและชำระทุนคืนแก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 200 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 400 ล้านบาทเป็น 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2 ล้านหุ้นมูลค่าหุ้นละ 100 บาท |
2553 | - ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 มีมติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 100 บาทเป็นหุ้นละ 1 บาท รวมถึงมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 200 ล้านบาท เป็น 285 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก - บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างทรัพย์สินโดยการขายอาคารคลังสินค้าแบบเทกองของบริษัทฯให้แก่ TSTE เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจให้ตรงกับลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน - ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 7 /2553 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม มีมติอนุมัติให้สิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายของ TSTE ในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 25,350,970 หุ้น ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive right) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.82 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (85 ล้านหุ้น) และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท TSTE ครั้งที่ 7 /2553 ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ TMILL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TSTE ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของ TSTE ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยให้เสนอขายในราคาเดียวกับที่เสนอขายประชาชน และให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 ในวันที่ 9 กันยายน 2553 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นดังกล่าว |
2555 | - เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้อนุญาตให้บริษัทสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้นต่อประชาชนทั่วไปได้ บริษัทฯ จึงได้เสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสิทธิ Pre-emptive right โดยเปิดให้จองซื้อในวันที่ 9, 12 และ 13 พฤศจิกายน 2555 และเสนอขายต่อบุคคลทั่วไป ในวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2555 ต่อมาบริษัทฯ ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วจากเดิม 200 ล้านบาท เป็น 285 ล้านบาท ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2555 และในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้สั่งรับหุ้นสามัญของบริษัทฯ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2555 เป็นต้นไป ส่งผลให้หุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 285,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2555 เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ในหมวดธุรกิจขนาดกลาง และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า TMILL |
2558 | - ภายหลังจากที่มีการดำเนินการธุรกิจโรงงานแป้งสาลีด้วยกำลังการผลิต 250 ตันข้าวสาลีต่อวัน และมีการใช้กำลังการผลิตจนเต็มกำลัง บริษัทฯ จึงได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน ตั้งแต่ปี 2558 โดยได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 114 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2558 เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 57 ล้านหุ้น และรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ TMILL - W1 |
2560 | - บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนเป็น 399 ล้านบาท และทุนรับชำระแล้วเป็น 344 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 |
2561 | - บริษัทฯ ได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต(CAC) |
2562 | - บริษัทฯ ติดอันดับ ESG 100 ติด 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จากสถาบันไทยพัฒน์ ประจำปี 2562 ด้วยการคัดเลือกจาก 771 บริษัทจดทะเบียน (ไม่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู) ประกาศผลเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 - บริษัทฯ ได้รับใบประกาศเกียรติคุณเป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประจำปี 2562 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 จากมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม - บริษัทฯ ได้ทำงานมาโดยไม่เกิดอุบัติเหตุครบ 900 วัน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2562 ได้สำเร็จ - บริษัทฯ ได้รับโล่เชิดชูเกียรติได้ร่วมพัฒนาโรงเรียนวัดปุณหังสนาวาส (ทิพย์สมบัติบุญ-ชุ่มอุทิศ) ตามโครงการ โรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project 100% เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562 จากกระทรวงศึกษาธิการ |
วิสัยทัศน์
"เรา" คือผู้ผลิตแป้งสาลีชั้นนำ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ทั้งในด้านพาณิชย์และคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างเป็นมืออาชีพ
พันธกิจ
1. มุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงสุด ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค
2. มอบผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นด้วยการยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างมีกำไรและยั่งยืน
3. เป็นคู่ค้าที่ทุกคนเลือกด้วยความเชื่อมั่นและไว้วางใจในบริการที่เหนือความคาดหมาย
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นประสิทธิภาพ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วม และนำศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองมาใช้ด้วยความมุ่งมั่นและมีความรับผิดชอบ
5. เป็นกำลังสำคัญเพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างสิ่งที่ดีสู่ชุมชนและสังคม
กำหนดค่านิยมองค์กร
เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลีรายเดียวในประเทศไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) อยู่ในภาคธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (AGRO) ซึ่งกระบวนการผลิตของเราอยู่ภายใต้ระบบคุณภาพสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหาร อาทิเช่น GHP, HACCP, FSSC22000, ISO22000 และ HALAL เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลีที่มีคุณภาพสูงสุด และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุดต่อบุคลากรและระบบการบริหารงานภายในองค์กรควบคู่กันไป อีกทั้งดำเนินโครงการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาองค์กร
ในส่วนของความรับผิดชอบและการดูแลสังคม เราไม่เพียงให้ความสำคัญกับการบริหารธุรกิจ เรายังตระหนัก และให้ความสำคัญในการตอบแทนสังคม โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดทั้งปี บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมเทกระจาด โดยมีการบริจาคสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนแก่ชุมชนโดยรอบบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการรักษาสถานภาพทางการเงินและความแข็งแกร่งมั่นคงทางธุรกิจ รวมถึงการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ได้มาตรฐานส่งถึงมือผู้บริโภค ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังคงแพร่กระจาย ซึ่งทีมผู้บริหารสามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว บริษัทฯ จะรักษาความเป็นผู้นำทางการตลาด จึงขอให้ท่านโปรดให้ความไว้วางใจและสนับสนุนการดำเนินการของผู้บริหาร อันเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นตลอดไป
ในปี 2565 บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ทำยอดรายได้ New High 1,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 482 ล้านบาท จากปี 2564 ที่มียอดขาย 1,483 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.50 และมีกำไรสุทธิรวม 109.4 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปีอยู่ที่ 21 สตางค์ต่อหุ้น มีกำลังการผลิตมวลรวม 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน และใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีราว 70%
ในปี 2565 ถือว่ายังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับบริษัทฯ เพราะยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่สิ่งที่ทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คือ ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คณะกรรมการบริหาร รวมถึงผู้บริหารระดับสูงได้มีการวางแผนงาน ปรับนโยบายและกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ทางบริษัทฯ กำหนดไว้ได้
สุดท้ายนี้ ในนามของคณะกรรมการบริหาร ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น คู่ค้า ลูกค้า รวมทั้งผู้บริหารและพนักงานทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนและมอบความไว้วางใจบริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) เราขอสัญญาว่าการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ เป็นพันธกิจหลักของเราที่จะต้องทำให้ได้อย่างต่อเนื่องด้วยความรอบคอบ ซื่อสัตย์ โปร่งใส ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีของบริษัทมหาชน เพื่อพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าด้วยความมุ่งมั่น และประสบการณ์ของเรา ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง
คณะกรรมการตรวจสอบ ของ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) “บริษัท” ปัจจุบันประกอบด้วยกรรมการอิสระที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติที่ดีของคณะกรรมการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท จำนวน 3 ท่าน ได้แก่
1.นายสมชัย วนาวิทย ประธานกรรมการตรวจสอบ
2.นายเอนก คำชุ่ม กรรมการตรวจสอบ
3.นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการตรวจสอบ
โดยประธานกรรมการตรวจสอบ ได้แก่ นายสมชัย วนาวิทย เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ทางด้านทารเงิน การบัญชี มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกำตลาดทุน ในปี 2565 คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบครอบ และแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรและสอดคล้องตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรกรรมการตรวจสอบ รวมถึงส่งเสริมและผลักดันให้บริษัทฯ
ในปี 2562 คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยมีนโยบายเน้นการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ได้ส่งเสริมและผลักดันให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติที่ดีของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้บริษัทฯ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท มีการประชุมรวม 4 ครั้ง โดยมีการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ผู้สอบบัญชี และผู้ตรวจสอบภายใน ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาสอบทาน และดำเนินการในเรื่องสำคัญ ซึ่งสรุปสาระสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ ได้ดังนี้
สอบทานงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำปี ของบริษัทฯ รวมทั้งได้เชิญผู้สอบบัญชีเข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่มีการพิจารณางบการเงินรายไตรมาส และงบการเงินประจำปี คณะกรรมการตรวจสอบได้สอบทานงบการเงินโดยสอบถามผู้สอบบัญชีในเรื่องความถูกต้อง ครบถ้วน เชื่อถือได้ของงบการเงิน และความเพียงพอในการเปิดเผยข้อมูลงบการเงินที่มีผลกระทบต่องบการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดทำงบการเงินเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายและมาตรฐานการรายงานทางการเงิน และหลักการบัญชีที่รองรับทั่วไป ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นสอดคล้องกับผู้สอบบัญชีว่างบการเงินดังกล่าวมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน
การควบคุมภายในและการตรวจสอบภายใน คณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาสอบทานให้บริษัทฯ มีระบบควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายในที่มีความเหมาะสมและมีประสิทธิผลมิให้เกิดความขัดแย้งหรือละเมิดต่อระเบียบกฎหมายของบริษัทฯ และข้อกำหนดต่างๆ พร้อมให้ข้อแนะนำแก่ฝ่ายบริหารเพื่อให้การปฏิบัติงานมีความรัดกุมรอบคอบและถูกต้อง ตลอดจนให้มีการติดตามและปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของรายงานผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบภายในและภายนอก เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่า การควบคุมภายในของบริษัทฯมีความเหมาะสมเพียงพอโดยไม่พบข้อบกพร่องที่เป็นสาระสำคัญในปี 2565 คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาคัดเลือก นางสาวฤทัยชนก สุภาพงษ์ หรือ นางสาวสุกัญญา เรืองศรี จากบริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด เป็นผู้ตรวจสอบภายในของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีหน้าที่ตรวจสอบภายใน รวมถึงให้ข้อเสนอแนะแก่บริษัทฯ เพื่อนำไปแก้ไขให้ดำเนินกิจการเป็นไปด้วยความโปร่งใสสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีการกฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวโดยไม่พบข้อบกพร่องที่เป็นสาระสำคัญ
การพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน คณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน โดยพิจารณาถึงคุณภาพงาน สถานะของผู้สอบบัญชี ข้อจำกัดที่มีสาระสำคัญ หรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อบังคับของบริษัทฯ และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาเสนอแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2565 จากบริษัทสำนักงาน เอ เอ็ม ซี จำกัด โดยมี นายอำพล จำนงวัฒน์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 4663 หรือ นายนริศ เสาวลักษณ์สกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 5369 คนใดคนหนึ่งเป็นผู้สอบบัญชีประจำปี 2565 เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีและแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทฯ โดยพิจารณาจากเกณฑ์ คุณวุฒิ คุณภาพของผู้สอบบัญชี ประสิทธิภาพในการทำงาน และเป็นผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. พร้อมทั้งพิจารณากำหนดค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชีสำหรับปี 2565 อย่างเหมาะสม
การบริหารจัดการความเสี่ยง คณะกรรมการบริษัท และผู้บริหารได้ให้ความสำคัญและระมัดระวังต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทฯ ตลาดจนให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบริษัทฯ ทั้งนี้ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานบริหารความเสี่ยงในระดับฝ่ายจัดการเพื่อติดตามดูแลความเสี่ยง และระบบควบคุมภายในทั่วทั้งองค์กรให้มีประสิทธิภาพ โดยจัดให้มีการประชุมทีมงานไตรมาสละ 1 ครั้ง เพื่อร่วมประเมินความเสี่ยง จัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยง ควบคุม ติดตาม และประเมินผล
รายการเกี่ยวโยงหรือรายการที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายการเกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจจะมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาว่าการทำรายการมีความสมเหตุสมผล รวมถึงเปิดเผยข้อมูลของรายการดังกล่าวตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกไตรมาสอย่างสม่ำเสมอ
ความรับผิดชอบต่อสังคม คณะกรรมการบริษัท และผู้บริหาร ตระหนักและให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) เพื่อดำเนินการในการพิจารณาและนำเสนอนโยบาย แผนงานและกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนจัดให้มีการสื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจกับพนักงานในทุกระดับอย่างทั่วถึง และรับผิดชอบในการดูแลติดตามแผนงานการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และให้มีการพิจารณาทบทวนประเมินประสิทธิผลในการดำเนินงานให้คณะกรรมการบริษัท ได้ทราบและพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ISO 22000:2018
GHP
HACCP
ISO14001:2015
FSSC 22000
HALAL
HALAL จังหวัดสมุทรปราการ
Green Industry
CAC
NIA
90/9 หมู่ 1 ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงกลาง
อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130
โทรศัพท์ 02-017-9999 โทรสาร 02-017-9999 ต่อ 111 หรือ 222